twitter
rss


เป้าประสงค์
      นักเรียนทุกคนมีพัฒนาการการเรียนรู้ตามศักยภาพ สามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง และสามารถนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการเรียนวิชาอื่นๆ ได้

วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์
1.             เพื่อให้นักเรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ และผ่านเกณฑ์มาตรฐานช่วงชั้น มีทักษะในการปฏิบัติงานและสุขนิสัยที่ดี ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
2.             เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา การระดมสรรพกำลัง ทรัพยากรเพื่อการศึกษา
3.             เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถของข้าราชการครูให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความก้าวหน้าในวิชาชีพ

ตัวชี้วัดความสำเร็จ
1.             ร้อยละของนักเรียนที่มีลักษณะอันพึงประสงค์ และผ่านเกณฑ์มาตรฐานช่วงชั้น
2.             ร้อยละของจำนวนข้าราชการครูที่ผ่านการพัฒนาตนเอง และมีวิทยฐานะที่สูงขึ้น
3.             ร้อยละของความพึงพอใจ ของผู้ปกครองต่อการดำเนินงานของโรงเรียน
4.             ร้อยละของจำนวนผู้ปกครอง ชุมชน ที่ให้ความร่วมมือในการจัดการศึกษาของโรงเรียน

วิสัยทัศน์

     โรงเรียนสร้างแก้วรัฐราษฎร์บำรุง มุ่งจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานและพัฒนาองค์กรให้มีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 



 คุณครูพรรณระวี  โพธิ์ศรี พิธีกร ซักซ้อม ทำความเข้าใจก่อนเริ่มพิธีการ


นักเรียนไหว้และกล่าวคำบูชาพระึคุณครู

นักเรียนกราบ

รับรางวัลนักเรียนความประพฤติดี


ผู้อำนวยการโรงเรียน นายศรายุทธ  เชื้ออัญ ให้โอวาท

 

นโยบาย (Policy)

นโยบายการจัดการศึกษาปีการศึกษา  2554
ของผู้อำนวยการโรงเรียนสร้างแก้วรัฐราษฎร์บำรุง

  1. จัดการศึกษาโดยสนองนโยบายหน่วยงานต้นสังกัดทุกระดับ
  2. ครูผู้สอนมีขวัญและกำลังใจที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่
  3. นักเรียนเป็นผู้มีกิริยามารยาทเรียบร้อย อ่านออก เขียนได้  คิดเลขเป็น
  4. โรงเรียนมีสภาพน่าอยู่ สะอาด เป็นระเบียบ และปลอดภัย
  5. ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีกับหน่วยงานองค์กรอื่น และชุมชน
  6. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมโดยชุมชน ศิษย์เก่า ในการพัฒนาการศึกษา
  7. ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ให้เพิ่มขึ้น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 จากปีที่ผ่านมา


วิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำทางการบริหารสถานศึกษา


                ข้าพเจ้านายศรายุทธ   เชื้ออัญ   ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาตั้งแต่วันที่ 21เดือนมีนาคม  พ.ศ.2544  เป็นต้นมา ผ่านการบริหารสถานศึกษามาแล้ว   2  แห่ง  ได้ตั้งปณิธานในการเป็นผู้บริหารก่อนเข้ารับตำแหน่งไว้ว่า จะเป็นผู้บริหารที่  รอบรู้   สู้งาน   จัดการดี   มีคุณธรรม   และได้ตั้งใจปฏิบัติตนในตำแหน่งผู้บริหารให้เป็นไปตามปณิธานดังกล่าวเป็นประจำเสมอมา    จนมีผลการบริหารสถานศึกษาที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไป   สำหรับแนวทางในการบริหารสถานศึกษาในอนาคตข้าพเจ้าก็จะยังยึดปณิธานเดิมเพื่อปฏิบัติตนให้เป็นตัวอย่างแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาและนักเรียนตลอดจนบุคคลทั่วไป    โดยแนวทางการบริหารสถานศึกษาด้านต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้
                 1.  การบริหารงานวิชาการ     ด้วยงานวิชาการเป็นหัวใจหลักที่เป็นภารกิจการบริหารที่สำคัญยิ่งเพราะสถานศึกษาจะต้องให้บริการแก่นักเรียน ชุมชน และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง  ดังนั้นในฐานะผู้บริหารจะต้องสร้างและเสริมความเข้มแข็งงานด้านวิชาการให้แก่สถานศึกษาที่ตนสังกัดเป็นอันดับแรก  โดยมีงานสำคัญที่ต้องคำนึงและส่งเสริมคือ  งานด้านหลักสูตร   งานด้านครูและบุคลากร   ด้านสื่อและเทคโนโลยี   ด้านสถานที่และบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้    ด้านงบประมาณสนับสนุน  เป็นต้น  ผู้บริหารจำเป็นจะต้องรับรู้สภาพปัจจุบันในเรื่องเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วนด้วยวิธีการที่หลากหลาย เชื่อถือได้  ละหลากหลายฒนาด้วยวิธีการที่เชื่อถือได้และหลากหลายทั้งนี้เพราะสภาพที่แท้จริงของสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลประกอบกทั้งนี้เพราะสภาพที่แท้จริงของสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลประกอบการนำเสนอทีมงานเพื่อประกอบการพิจารณากำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนานักเรียนให้เป็นผู้มีความรู้และทักษะที่เหมาะสมในระดับช่วงชั้นมีคุณลักษณะเป็นไปตามมาตรฐานของหลักสูตรในยุคและสมัยนั้นๆต่อไป
               
           วิธีการที่จะนำมาใช้
1.             บุคลิกภาพส่วนตัวในการเป็นผู้มีกัลยาณมิตรที่ดี การเป็นผู้มีทักษะในการสื่อสารทักในการรับรู้ข้อมูล
2.             การสร้างทีมงานที่ดี  มีเป้าหมายในงานร่วมกัน
3.             ความจริงใจและตั้งใจในการพัฒนางานในทุกสถานที่และกับบุคคลที่หลากหลาย
4.             ความซื่อสัตย์เสียสละ  และปรารถนาให้บุคคลอื่นเป็นสุข
   ผลที่คาดว่าจะเกิดจากการปฏิบัติ
1.             นักเรียนในสังกัดมีความรู้ ทักษะและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เป็นไปตามมาตรฐานของหลักสูตร
2.             ครูและบุคลากรมีความสุขและก้าวหน้าในการประกอบวิชาชีพ
3.             สถานศึกษามีความพร้อมด้านสื่อ สถานที่และบรรยากาศแห่งการเรียนรู้พร้อมที่จะให้
          บริการ
4.             ชุมชนพึงพอใจและร่วมมือในการพัฒนางานวิชาการของสถานศึกษา

        2. งานด้านงบประมาณ  
 งานงบประมาณเป็นงานสนับสนุนหลักในการขับเคลื่อนภารกิจด้านต่างๆของสถานศึกษา เนื่องจากเกี่ยวข้องและผูกพันด้วยเรื่องเงินซึ่งถือเป็น 1  ใน 4  ของปัจจัยทางการบริหาร   ผู้บริหารสถานศึกษามีหน้าที่ในการวางแผน จัดหา  อนุมัติการใช้จ่ายเงิน   นิเทศกำกับ  และรายงานให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผนต่างๆที่เกี่ยวข้องของทางราชการ    ดังนั้นการจะบริหารงานงบประมาณได้ดีผู้บริหารจำเป็นจะต้องมีความรอบรู้และมีทักษะในเรื่องต่างๆอย่างน้อยดังต่อไปนี้
-                   ด้านการจัดทำงบประมาณ  ได้แก่การกำหนดความต้องการทั้งในระยะสั้นและ
ระยะยาวผ่านกระบวนการจัดทำแผนงบประมาณ
-                   ระเบียบว่าด้วยการงบประมาณ  การเงิน  การพัสดุ ตลอดจนการบัญชีและ
             หนังสือสั่งการที่ใช้บังคับในช่วงเวลานั้นๆ
-                   การตัดสินใจอนุมัติให้มีการใช้จ่ายเงินทั้งในและนอกงบประมาณเป็นไปตาม
ระเบียบใด
-                   การติดตามการใช้จ่ายเงินเป็นไปตามระเบียบและวัตถุประสงค์มากน้อยเพียงใด
-                   สามารถนิเทศ แนะนำ และกำกับการใช้จ่ายเงินให้ถูกต้องได้

เนื่องด้วยในปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายมุ่งเน้นพัฒนาด้านการศึกษาเป็นด้านหลักและใช้จ่ายเงินงบประมาณจำนวนมหาศาล   สถานศึกษาในฐานะที่เป็นหน่วยงาน รับและจ่ายเงินให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าวจะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและสมประโยชน์ มีความถูกต้อง โปร่งใส  ทันตามกำหนด  สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นภาระอันสำคัญที่ผู้บริหารสถานศึกษาต้องคำนึงเป็นกรณีพิเศษ

วิธีการที่จะนำมาใช้
-                   ทำตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา โดยเฉพาะเรื่องความซื่อสัตย์
สุจริต
-                   ส่งเสริมให้ผู้ใต้บังคับบัญชาศรัทธาและเชื่อมั่นในความสุจริต
-                   ใช้การบริหารแบบมีส่วนร่วม  ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษา    ภาคี 4 ฝ่าย
-                   ยึดระเบียบราชการในการตัดสินใจ  วินิจฉัย  และสั่งการ  โดยเฉพาะเรื่องการ
เงินพัสดุ
-                   ใช้คุณธรรมนำการบริหาร  สร้างขวัญกำลังใจที่ดี  ระบบตอบแทนที่เป็นธรรม
-                   สร้างทีมงานที่ดี

ผลที่คาดว่าจะเกิดจากการปฏิบัติ
-                   สถานศึกษา  นักเรียน  ครู  ได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายเงินที่ถูกต้อง
-                   สถานศึกษาเข้มแข็ง เป็นตัวอย่างที่ดี และให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ
-                   ครู ชุมชน  คณะกรรมการ   มีความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่และเห็นคุณค่าของ
เงินงบประมาณ
-                   ไม่มีเรื่องผิดวินัยเกี่ยวกับเรื่องการเงินการพัสดุใดๆ

             3. การบริหารงานทั่วไป
                งานบริหารทั่วไปนับเป็นกลุ่มงานที่มีปริมาณงานจำนวนมากที่เป็นทั้งงานสนับสนุนและงานตามปฏิทินในภารกิจเพราะสัมพันธ์กับงานอื่นในสถานศึกษาดังนั้นจึงนับเป็นกลุ่มงานที่จำเป็นและมีผู้รับผิดชอบจำนวนมาก  ผู้บริหารสถานศึกษาจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญไม่แพ้งานงบประมาณและงานวิชาการ  ภารกิจงานบริหารทั่วไปที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งประการหนึ่งคือ การรับนักเรียนที่ปัจจุบันรัฐธรรมนูญที่ใช้เป็นแม่บทในการปกครองประเทศไทยได้บัญญัติเรื่องความเสมอภาคโอกาสทางการศึกษาไว้ด้วย  เพื่อที่สถานศึกษาต้องยึดและถือปฏิบัติโดยไม่ให้มีการละเว้นหรือปฏิเสธการเข้าเรียนของเด็ก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วโรงเรียนในชนบทที่เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด   นอกจากงานการรับนักเรียนแล้วในกลุ่มงานนี้ยังประกอบไปด้วยงานธุรการ  งานเลขานุการคณะกรรมการสถานศึกษา   งานข้อมูลสารสนเทศและงานการประชาสัมพันธ์การศึกษาซึ่งล้วนแต่เป็นงานที่ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของสถานศึกษาทั้งสิ้น   ความรอบรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลของสถานศึกษาจึงเป็นหัวใจด้วยประการนี้  ผู้บริหารต้องใช้ข้อมูลบริบทเบื้องต้นของสถานศึกษาประกอบในการวางแผนกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาทั้งสิ้น   ดังนั้นคุณลักษณะผู้บริหารสถานศึกษาที่ควรจะมีเป็นอย่างน้อยประกอบด้วย
-                   ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล  การแปลผลสรุปสภาพปัจจุบันของบริบทสถานศึกษา
-                   ทักษะการเป็นหัวหน้าทีมในการวางแผนกำหนดยุทธศาสตร์และเป้าหมายสถาน
ศึกษา
-                   การจัดระบบ  วางตัวบุคคลที่เหมาะกับภารกิจ
-                   การสร้างทีมงานคุณภาพ
                                                ฯลฯ
วิธีการที่จะนำมาใช้
-                   การประชุม
-                   การใช้กระบวนการวางแผน
-                   การสร้างทีมงาน
-                   การประชาสัมพันธ์
-                   การประสานงานกับหน่วยงานและผู้ทรงคุณวุฒิอื่นอื่น
-                   ส่งเสริมข้าราชการครูในการพัฒนาตนเอง
ผลที่คาดว่าจะเกิดจากการปฏิบัติ
-                   งานบริหารทั่วไปสามารถสนับสนุนงานอื่นของสถานศึกษาให้เกิดความเข้มแข็งได้
-                   ครูและบุคลากรมีความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่และปฏิบัติงานด้วยความสุข
-                   นักเรียนได้รับประโยชน์สูงสุดและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่พัฒนาขึ้น
-                   สถานศึกษาเข้มแข็งให้บริการนักเรียน ชุมชน และหน่วยงานอื่นได้

             4.  ด้านนโยบายด้านการศึกษาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามเป้าหมายของการบริหารสถานศึกษา

                การกำหนดเป้าหมายใดๆของสถานศึกษาผู้บริหารสถานศึกษาในฐานะผู้นำขององค์กรมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเป็นบุคคลที่รวดเร็วในการรับรู้ข่าวสาร  นโยบายของหน่วยงานต้นสังกัดและที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาเผยแพร่ให้ทีมงานในสถานศึกษาได้รับทราบและร่วมกันวิเคราะห์  สังเคราะห์ก่อนกำหนดเป็นแนวปฏิบัติของสถานศึกษาให้สอดคล้องและสนองต่อนโยบายนั้นๆ  การกำหนดเป้าหมาสถานศึกษาต้องตั้งอยู่บนความเป็นไปได้และไม่ขัดนโยบายหน่วยงานต้นสังกัด    บทบาทของผู้บริหารจึงควรเป็นดังนี้
-                   เป็นผู้ใฝ่รู้ชอบค้นคว้าและติดตามข่าวสารมีเครือข่ายทีมงานที่ดี
-                   เป็นหัวหน้าทีมในการวิเคราะห์สังเคราะห์และการระดมความคิดจากเพื่อนร่วม
งาน
-                   วางตัวเป็นกลางทางการเมืองไม่มีอคติ
-                   สามารถใช้สื่อเทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลข่าวสารได้
-                   เป็นนักประชาสัมพันธ์ที่ดี
                                                                                 ฯลฯ
 
วิธีการที่จะนำมาใช้
-                   ส่งเสริมบุคลากรให้รักการค้นคว้าและติดตามข่าวสาร
-                   ปรับปรุงระบบอินเตอร์เนต
-                   ส่งเสริมบุคลากรในการสร้างเครือข่ายการพัฒนาเช่นชมรม   กลุ่มเครือข่ายทั้ง
            ที่มีแล้วและก่อตั้งขึ้นใหม่
-                   การแสวงหากลุ่มเครือข่ายพัฒนาตนเองของผู้บริหารสถานศึกษา
-                   การเข้ารับการอบรมสัมมนา
ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการปฏิบัติ
-                   ครูและบุคลากรเป็นผู้รวดเร็วในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร
-                   สถานศึกษาสมารถกำหนดนโยบายที่สนองนโยบายต้นสังกัดได้
-                   ครูและบุคลากรมีความเข้าใจและปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายของสถานศึกษา
ได้
-                   สถานศึกษามีการพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่ง
-                   นักเรียนได้รับประโยชน์จากการพัฒนาและมีความสุขในการเรียนรักสถานศึกษา
             ของตนเอง

โรงเรียนสร้างแก้วรัฐราษฎร์บำรุง  ตั้งอยู่หมู่ที่   
ตำบลกุงเก่า  อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์   
รหัสไปรษณีย์  46190   
โทรศัพท์ 083-4183339
Email : sankawja@gmail.com 
www.sangkaw.blogspot.com